รู้จักกับ “ไรในหู” ศัตรูตัวจิ๋วของสุนัขและแมว 🐶
ไรในหูเป็นปรสิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในช่องหูและบนตัวสัตว์เลี้ยง ส่งผลให้เกิดการอักเสบในช่องหู และทำให้สัตว์แสดงอาการคัน เกา หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาอาจนำไปสู่การติดต่อไปสู่สัตว์ตัวอื่นๆ และเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้
📝 สัญญาณที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงอาจมีไรในหู:
• คัน เกาหูบ่อยๆ
• มีขี้หูสีดำหรือน้ำตาลเข้มคล้ายกากกาแฟ
• หูอักเสบ แดง หรือมีแผล
• หูมีกลิ่นเหม็น
• สั่น หรือเอียงหัว
📝 วิธีตรวจเช็กไรในหู: พบสัตวแพทย์เพื่อตรวจตัวอย่างขี้หูด้วยกล้องจุลทรรศน์
วิธีรักษาไรในหู:
1. ป้องกันปรสิตภายนอกด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดปรสิตภายนอกแบบ Spot-on หรือ แบบกินทุกเดือน หรือตามสัตวแพทย์แนะนำ
2. ใช้ผลิตภัณฑ์หยอดหูที่มีส่วนประกอบของยา หรือสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฆ่าไรในหู
3. ทำความสะอาดหูเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือตามความสกปรกของช่องหู แนะนำเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดหูที่มีฤทธิ์ส่งเสริมในการกำจัดไรในหู
4. ให้การรักษาต่อเนื่องครอบคลุมวงจรชีวิตของไรในหู ประมาณ 3 สัปดาห์
5. รักษาสัตว์ทุกตัวในบ้านพร้อมกัน เพราะไรในหูสามารถแพร่กระจายระหว่างสัตว์เลี้ยงได้ง่าย
เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรหมั่นสังเกตอาการ และสุขภาพหูของสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ หากพบสัญญาณข้างต้น ควรพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการรักษาอย่างถูกต้อง ควบคู่ไปกับการดูแลสุขอนามัยและการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ไรในหูกลับมากวนใจน้องๆอีก
ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ Otosense Gel Ear Drop: เจลหยอดหู ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ อ่อนโยน ปลอดภัย เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงทุกชนิด ทุกช่วงอายุ มีประสิทธิภาพในการกำจัดไรในหู ด้วยคุณสมบัติของ Neem oil (น้ำมันสะเดา) อีกทั้งช่วยลดการสะสมของเชื้อ เนื้อเจลช่วยให้คงประสิทธิภาพในช่องหูได้ยาวนานยิ่งขึ้น ใช้ควบคู่กับน้ำยาล้างที่ช่วยทำความสะอาดช่องหูอย่างล้ำลึก ขจัดสิ่งสกปรกและคราบขี้หูดำได้อย่างหมดจด เพื่อการดูแลหู และประกอบการรักษาไรในหูอย่างครอบคลุม เต็มรูปแบบ
Leave A Comment