ยาพาราเซตามอล ยาสามัญประจำบ้านที่ใครๆก็มักมีติดไว้เสมอ เพราะมีความเป็นพิษต่ำในคน หาซื้อง่าย จึงใช้ลดไข้ บรรเทาปวด กันอย่างแพร่หลาย แต่!! ยาชนิดนี้กลับมีความเป็นพิษสูงมากกับน้องแมว น้องแมวนั้นไวต่อพิษของยาพาราฯมาก โดยขนาดยาเพียง 45-55มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ก็สามารถทำให้เกิดความเป็นพิษได้แล้วครับ เนื่องจากแมวขาดเอนไซม์ที่ใช้เปลี่ยนแปลงยาทำให้ยาเกิดความเป็นพิษขึ้น ซึ่งปกติยาพาราฯที่เราใช้ๆกันอยู่ตามบ้านนั้น มีขนาดถึง 500 มิลลิกรัมเลยทีเดียว!! จึงมีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ และยาชนิดนี้ก็มีอันตรายต่อน้องหมาเช่นกันนะครับ ดังนั้นไม่ควรป้อนยาให้สุนัขและแมวทานเองโดยไม่ได้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนครับ
โดยความเป็นพิษร้ายแรงนั้น จะเกิดกับไต ตับ ระบบทางเดินอาหาร และระบบเลือด ซึ่งเม็ดเลือดแดงของแมวไวต่อการถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนไปสู่อวัยวะต่างๆได้ ทำให้แมวเสียชีวิตได้ครับ อาการของแมวที่ทานยาจนเกิดความเป็นพิษ จะเกิดขึ้นภายใน 4-12 ชั่วโมงหลังจากได้รับยา โดยอาการที่อาจพบได้ในระยะเริ่มแรก (หลังได้รับยา 1-2 ชั่วโมง) ได้แก่ น้ำลายฟูมปาก อาเจียน ซึม หายใจลำบาก เหงือกมีสีคล้ำ อุ้งมือบวม อุ้งเท้าบวม หน้าบวม และเบื่ออาหาร หลังจากนั้นตับอาจเสียหาย จนเกิดอาการดีซ่าน ชัก โคม่า และเสียชีวิตได้ภายใน 18-36 ชั่วโมงครับ
ดังนั้นเจ้าของจึงไม่ควรให้ยาพาราเซตามอลกับสุนัขและแมวด้วยตนเอง หากจำก็ต้องอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์เสมอ การรักษาแมวที่ได้รับพิษมักไม่ได้ผลหรือได้ผลน้อยกว่าสุนัขมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดยาที่ได้รับด้วยครับ โดยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอาจทำได้โดยการทำให้อาเจียน ป้อนผงถ่าน (Activated Carbon) แล้วรีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์ทันทีครับ
ไม่เฉพาะแต่พาราเซตามอล แต่ยาอื่นๆ อาทิ แอสไพริน และยาแก้แพ้ (CPM) ก็สามารถนำไปสู่การเสียชีวิตได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ห้าม!! ป้อนยาคนให้สัตว์ทุกชนิดกินเองโดยเด็ดขาดครับ ทางที่ดีที่สุดเมื่อน้องเจ็บป่วยเป็นอะไรก็ตาม ควรพาน้องๆไปหาสัตวแพทย์นะครับ เพราะการที่น้องรู้สึกเจ็บ ปวด ทรมาน นั้น ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างมนุษย์หรอกครับ และไม่สามารถไปหาหมอเองได้ด้วย
ดังนั้นการตรวจวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องจากสัตว์แพทย์ จึงเป็นทางที่ดีที่สุด ที่เราจะช่วยเหลือน้องในฐานะพ่อ แม่ และผู้เป็นที่รักของน้องได้ครับ
Leave A Comment